แผนการจัดการด้านความต่อเนื่องทางธุรกิจ
แผนการจัดการด้านความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan: BCP) ของบริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัท”) จัดทำขึ้น เพื่อให้สามารถนำไปใช้ในการตอบสนองและปฏิบัติงานในสภาวะวิกฤติหรือเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ไม่ว่าจะเกิดจากภัยธรรมชาติ อุทกภัย วาตภัย อุบัติเหตุ อัคคีภัย การก่อการประท้วง จลาจล การก่อวินาศกรรม โรคระบาด โรคติดต่ออย่างรุนแรง หรือการมุ่งร้ายต่อองค์กร เช่น การจู่โจมทางคอมพิวเตอร์ และอื่น ๆ โดยสภาวะวิกฤติหรือเหตุการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวส่งผลให้การดำเนินงานของบริษัทต้องหยุดชะงัก หรือไม่สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่องได้.
ดังนั้น การจัดทำแผนจัดการด้านความต่อเนื่องทางธุรกิจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้บริษัท สามารถรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ไม่คาดคิด และทำให้กระบวนการที่สำคัญ (Critical Business Process) สามารถกลับมาดำเนินการได้อย่างปกติ หรือตามระดับการให้บริการที่กำหนดไว้ในระยะเวลาที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้สามารถลดระดับความรุนแรงของผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อบริษัทได้.
1. วัตถุประสงค์
- เพื่อให้บริษัท มีแนวทางปฏิบัติที่เตรียมพร้อมล่วงหน้าในการที่จะรับมือกับสภาวะวิกฤติ หรือเหตุการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ.
- เพื่อลดผลกระทบด้านต่าง ๆ รวมถึงผลกระทบทางการเงิน ซึ่งเกิดจากการที่บริษัท ต้องหยุดชะงักหรือชะลอการดำเนินงานหรือการให้บริการ ในช่วงที่เกิดสภาวะวิกฤติดังกล่าว.
- เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง (Stakeholders) อาทิ ลูกค้า คู่ค้า ซัพพลายเออร์ และพนักงาน มีความเชื่อมั่นว่าบริษัท สามารถดำเนินงานและให้บริการได้อย่างต่อเนื่องในสภาวะวิกฤติ ด้วยทรัพยากร ข้อมูลสารสนเทศ และแนวปฏิบัติที่กำหนดไว้ จนกระทั่งเหตุการณ์ผ่านพ้นไป.
1.1 สมมติฐานของแผนการจัดการด้านความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCP Assumptions)
รายงานนี้ได้จัดทำขึ้นภายใต้สมมติฐาน ดังต่อไปนี้
- เหตุการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสถานที่ปฏิบัติงานสำรองที่ได้มีการจัดเตรียมไว้.
- แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศองค์กร (Corporate IT) รับผิดชอบในการสำรองระบบสารสนเทศต่าง ๆ โดยระบบสารสนเทศสำรองนั้น มิได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ฉุกเฉินเดียวกันกับระบบสารสนเทศหลัก.
- “พนักงาน” ที่ถูกระบุในรายงานนี้ หมายถึงพนักงานทั้งหมดของบริษัทและบริษัทย่อย.
1.2 ขอบเขตของแผนการจัดการด้านความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Scope of BCP)
แผนการจัดการด้านความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCP) ฉบับนี้ ใช้รองรับกรณีเกิดสภาวะวิกฤติหรือเหตุการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่การดำเนินธุรกิจของบริษัท หรือภายในแผนก/ฝ่ายของบริษัท ประกอบด้วยเหตุการณ์ต่อไปนี้
- เหตุการณ์อุทกภัย/วาตภัย (น้ำท่วม/พายุ)
- เหตุการณ์อัคคีภัย/แผ่นดินไหว
- ระบบข้อมูลสารสนเทศล่ม หยุดชะงัก
- เหตุการณ์ชุมนุมประท้วง/จลาจล
- เหตุการณ์โรคระบาด/โรคติดต่อร้ายแรง
อย่างไรก็ตาม แผนจัดการด้านความต่อเนื่องทางธุรกิจฉบับนี้ได้จัดทำขึ้น เพื่อให้สามารถรองรับกับสภาวะวิกฤติหรือเหตุการณ์ฉุกเฉินได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งนี้ได้พิจารณาถึงผลกระทบต่อทรัพยากรที่สำคัญในการดำเนินงาน ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 ด้านดังนี้:
ที่ | ผลกระทบด้าน | เหตุการณ์ |
---|---|---|
1 |
ผลกระทบด้านอาคารสำนักงาน/คลังสินค้า |
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สถานที่ปฏิบัติงานหลักได้รับความเสียหายหรือไม่สามารถใช้สถานที่ปฏิบัติงานหลักได้ และส่งผลให้บุคลากรไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติงานได้ชั่วคราวหรือระยะยาว |
2 |
ผลกระทบด้านสินค้า อะไหล่ อุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์ขนถ่ายสินค้า |
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ไม่สามารถจัดส่งสินค้า หาจัดหาสินค้าได้ ไม่มียานพาหนะ อุปกรณ์ขนถ่ายสินค้าให้สามารถใช้งานในการปฏิบัติงานได้ตามปกติ |
3 |
ผลกระทบด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและข้อมูลที่สำคัญ |
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ไม่สามารถใช้ระบบงานเทคโนโลยีหรือระบบสารสนเทศหรือข้อมูลที่สำคัญได้ตามปกติ |
4 |
ผลกระทบด้านบุคลากร |
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้บุคลากรไม่สามารถมาปฏิบัติงานได้ตามปกติ |
5 |
ผลกระทบด้านคู่ค้า/ผู้ให้บริการที่สำคัญ |
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คู่ค้า/ผู้ให้บริการ/ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่สามารถที่จะให้บริการหรือส่งมอบงานได้ตามปกติ. |
1.3 สรุปเหตุการณ์สภาวะวิกฤติและผลกระทบจากเหตุการณ์
ความเสี่ยงและภัยคุกคาม | ผลกระทบ | |||||
---|---|---|---|---|---|---|
ด้านอาคารสำนักงาน/คลังสินค้า | ด้านสินค้า อะไหล่ อุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์ขนถ่ายสินค้า | ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและข้อมูลที่สำคัญ | ด้านบุคลากร | ด้านคู่ค้า/ผู้ให้บริการที่สำคัญ | ||
อุทกภัย/วาตภัย | ||||||
อัคคีภัย/แผ่นดินไหว | ||||||
ระบบข้อมูลสารสนเทศ | ||||||
ชุมนุมประท้วง/จลาจล | ||||||
โรคระบาด/โรคติดต่อร้ายแรง |
แผนการจัดการด้านความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCP) ฉบับนี้ ไม่รองรับการปฏิบัติงานในกรณีที่มีเหตุขัดข้องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปกติ และเหตุขัดข้องดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบระดับสูงต่อการดำเนินงานและการให้บริการของบริษัท และยังสามารถจัดการหรือปรับปรุงแก้ไขได้ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม โดยฝ่ายจัดการ หรือผู้จัดการ (หรือผู้มีตำแหน่งเทียบเท่า) แต่ละฝ่ายและแผนกสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเอง.
2. การจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Management)
2.1. โครงสร้างและทีมงานแผนการจัดการด้านความต่อเนื่องทางธุรกิจ
เพื่อให้แผนการจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCP) สามารถนำไปปฏิบัติใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล แผนฯ ได้จัดตั้งทีมงานการจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCP Team) ขึ้นโดยมีโครงสร้างดังนี้
- หัวหน้าคณะจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร)
- ผู้ประสานงาน/หัวหน้าทีมจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ (ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ-ส่วนสนับสนุน)
ถัดจากนั้นได้กำหนดตำแหน่ง Action Manager ขึ้นในแต่ละพื้นที่การทำงาน โดยแบ่งออกเป็น 4 พื้นที่ ประกอบด้วย สำนักงานใหญ่ คลังไม้ งามวงศ์วาน และคลัง Med.

ซึ่ง Action Manager ในแต่ละพื้นที่ สามารถปฏิบัติงานได้จริง ทันการณ์ ตัดสินใจแก้ปัญหาฉุกเฉินได้ตามสมควร เพื่อมิให้บริษัทฯ เกิดความเสียหายไปมากกว่าที่ไม่ได้ดำเนินการอะไร รายงานตรงต่อผู้ประสานงาน/หัวหน้าทีมงาน ซึ่งผู้ประสานงาน/หัวหน้าทีมงาน จะรายงานให้หัวหน้าคณะจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจได้ทราบต่อไป
2.2. กระบวนการแจ้งเหตุฉุกเฉิน (Call Tree)
กระบวนการแจ้งเหตุฉุกเฉิน และ/หรือ Line group คือกระบวนการแจ้งเหตุฉุกเฉินให้กับสมาชิกในทีมจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจและทีมงานจัดการความต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องตามผังรายชื่อตามข้อ 2.1 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการบริหารจัดการขั้นตอนในการติดต่อพนักงาน ภายหลังจากมีการประกาศเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือภาวะวิกฤตของบริษัท.
ภาพ Call Tree

จุดเริ่มต้นของกระบวนการแจ้งเหตุฉุกเฉินจะเริ่มจากหัวหน้าคณะจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจแจ้งให้ผู้ประสานงาน/หัวหน้าทีมจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ รับทราบเหตุการณ์ฉุกเฉินและการประกาศใช้แผนการจัดการด้านความต่อเนื่องทางธุรกิจ ตามสายงานการบังคับบัญชาของแต่ละสายงาน ผู้จัดการ (หรือตำแหน่งเทียบเท่า) ในแต่ละฝ่ายและแผนกติดต่อและแจ้งไปยังพนักงานภายใต้สายการบังคับบัญชาของตน รับทราบเหตุการณ์ฉุกเฉินและการประกาศใช้แผนการจัดการด้านความต่อเนื่องทางธุรกิจของบริษัท ที่ได้รับผลกระทบ ตามรายชื่อและช่องทางติดต่อสื่อสารที่ได้กำหนดไว้.
ในกรณีที่ไม่สามารถติดต่อหัวหน้าทีมได้ ให้ติดต่อไปยังบุคลากรสำรอง โดยพิจารณา:
- ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นให้ดำเนินการติดต่อบุคลากรหลักโดยติดต่อผ่านเบอร์โทรศัพท์ และ Line group: @BCM_EFORL
- ถ้าสามารถติดต่อบุคลากรหลักได้ให้แจ้งข้อมูลแก่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการของบริษัท ทราบและปรึกษาถึงประเด็นดังต่อไปนี้
- สรุปสถานการณ์ของเหตุการณ์ฉุกเฉินและการประกาศใช้แผนการจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ
- เวลาและสถานที่สำหรับการนัดประชุมเร่งด่วนของบริษัท สำหรับฝ่ายจัดการของบริษัท และทีมงานจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ
- ขั้นตอนการปฏิบัติงานเพื่อการจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจต่อไป เช่น สถานที่รวมพลในกรณีที่มีการย้ายสถานที่ทำการ
ภายหลังจากได้รับการตอบรับจากบุคลากรหลักครบถ้วนตามผังการติดต่อ หัวหน้าคณะจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจมีหน้าที่ติดต่อ/ส่งข้อความทาง Line Group กลับไปแจ้งยังผู้ประสานงาน/ทีมงานจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ เพื่อรวบรวมสรุปความพร้อมของบริษัท ในการจัดการด้านความต่อเนื่องทางธุรกิจ รวมทั้งความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของบริษัท และบุคลากรทั้งหมดในบริษัท.
ทีมงานจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ มีหน้าที่ในการปรับปรุงข้อมูลสำหรับการติดต่อให้เป็นปัจจุบันอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้กระบวนการติดต่อพนักงานภายในบริษัท สามารถดำเนินได้อย่างต่อเนื่องและสำเร็จลุล่วงภายในระยะเวลาที่คาดหวัง ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินและมีการประกาศใช้แผนการจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ.
3. การประเมินผลกระทบ (Impact Assessment)
3.1. ผลกระทบทางธุรกิจ (Business Impact Assessment)
การประเมินผลกระทบต่อกระบวนการหรือการวิเคราะห์ผลกระทบทางธุรกิจ (Business Impact Analysis) จะแบ่งระดับผลกระทบออกเป็น 5 ระดับ โดยมีหลักเกณฑ์การพิจารณาระดับผลกระทบดังนี้
ระดับผลกระทบ | หลักเกณฑ์การพิจารณาระดับของผลกระทบ |
---|---|
สูงมาก |
|
สูง |
|
ปานกลาง |
|
ต่ำ |
|
ไม่มีสาระสำคัญ |
|
การประเมินระดับผลกระทบในแต่ละช่วงระยะเวลาของการหยุดชะงักที่ไม่สามารถปฏิบัติงานได้แบ่งออกเป็น 6 ช่วงระยะเวลา คือ
- 0-2 ชั่วโมง
- 2-4 ชั่วโมง
- 1 วัน
- 3 วัน
- 1 สัปดาห์
- 2 สัปดาห์
ในการวิเคราะห์ผลกระทบทางธุรกิจ (Business Impact Analysis) ของบริษัท พบว่ากระบวนการทำงานที่ต้องให้ความสำคัญและจำเป็นต้องดำเนินงานให้บริการได้ ภายในระยะเวลาที่กำหนด ดังนี้
- การวิเคราะห์ผลกระทบทางธุรกิจ (Business Impact Analysis)
3.2 ผลกระทบด้านการดำเนินงานเกี่ยวกับเอกสาร การเงิน และการดำเนินงานตามพันธกิจ

3.3 ผลกระทบทางด้านการดำเนินงานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ

4. กลยุทธ์ความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Strategy)
กลยุทธ์ความต่อเนื่องทางธุรกิจ เป็นแนวทางในการจัดหาและบริหารจัดการทรัพยากรให้มีความพร้อม เมื่อเกิดสภาวะวิกฤติ ซึ่งพิจารณาทรัพยากรเป็น 5 ด้าน ได้แก่ 1) อาคารสำนักงาน/คลังสินค้า 2) สินค้า อะไหล่ อุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์ขนถ่ายสินค้า 3) เทคโนโลยีสารสนเทศและข้อมูลที่สำคัญ 4) บุคลากรหลัก 5) คู่ค้า/ผู้ให้บริการที่สำคัญ กลยุทธ์ด้านความต่อเนื่องทางธุรกิจสำหรับแต่ละทรัพยากร มีดังนี้
4.1 การจัดการตามกลยุทธ์ความต่อเนื่องทางธุรกิจ
ทรัพยากร | กลยุทธ์ความต่อเนื่องทางธุรกิจ | |||||
---|---|---|---|---|---|---|
อุทกภัย/วาตภัย | อัคคีภัย/แผ่นดินไหว | โรคระบาด | ชุมนุมประท้วง/จลาจล | ระบบข้อมูลสารสนเทศ | ||
อาคารสำนักงาน/คลังสินค้า | อาคารสำนักงาน/คลังสินค้า (เสียหายบางส่วน) ให้ผู้ประสานงานคณะจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ ประสานงานกับ ผู้จัดการ/ผู้รับผิดชอบประจำอาคาร/คลัง ดำเนินการตัดกระแสไฟฟ้าที่จ่ายให้พื้นที่ที่เกิดเหตุฉุกเฉิน (ส่วนห้องเย็นให้ตรวจสอบและใช้เครื่องสำรองไฟ) หรือดับเพลิง เช่น นำอุปกรณ์ดับเพลิงเข้าทำการดับเพลิง/พิจารณาแจ้งสถานีดับเพลิง (สถานีดับเพลิงและกู้ภัยบวรมงคล 02-424-2823/สถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางอ้อ 02-424-2910) หรือหน่วยงานภายนอกอื่น ๆ มาช่วย เป็นต้น เพื่อป้องกันชีวิต และทรัพย์สิน ให้ได้รับความเสียหายน้อยที่สุด หลังจากเหตุการณ์ฉุกเฉินได้สงบลงแล้วให้รีบดำเนินการตรวจสอบอาคาร คลังสินค้า วัสดุอุปกรณ์ สินค้าที่ชำรุดเสียหาย สำรวจความเหมาะสมของสถานที่ หากเหมาะสม ดำเนินการซ่อมแซม แล้วกลับมาดำเนินงานตามปกติ | - | - | - | ||
ในกรณีต้องใช้ที่ปฏิบัติงานสำรอง ให้ผู้ประสานคณะจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ ติดต่อสถานที่ปฏิบัติงานสำรอง อาทิ สำนักงานงามวงศ์วาน หรือผู้ให้เช่าอาคารสำนักงาน/คลังสินค้าแถบวงแหวนรอบนอก เพื่อขอใช้พื้นที่ปฏิบัติงานสำรองเป็นการชั่วคราว รองรับพนักงานได้ประมาณ 20-30 คน (พนักงานส่วนอื่นให้ทำงานภายนอกบริษัท หรือ Work from Home ซึ่งต้องประสานงานสื่อสารกับผู้จัดการที่เป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดโดยตลอด) | - | |||||
ในกรณีที่เกิดความเสียเป็นวงกว้าง หรือ ไม่สามารถเข้ามาทำงานได้ สำรวจความเหมาะสมของสถานที่ปฏิบัติงานสำรอง ฝ่ายจัดการประชุมตัดสินใจเพื่อหาทางออกที่เหมาะสมต่อไป | - | |||||
สินค้า อะไหล่ อุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์ขนถ่ายสินค้า |
ในกรณีที่วัสดุ อุปกรณ์ หรือคอมพิวเตอร์ใช้งานได้รับความเสียหาย ไม่สามารถใช้งานได้ ให้ผู้ประสาน/หัวหน้าทีมจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ ประสานกับแผนกจัดการทรัพย์สิน แผนกธุรการ และแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศองค์กร เพื่อจัดหาวัสดุ อุปกรณ์ หรือคอมพิวเตอร์มาใช้งานก่อนโดยเฉพาะคอมพิวเตอร์นั้น (จัดหาโดยจากบริษัทย่อย หรือการเช่า/เช่าซื้อ) จะต้องพิจารณาตามลำดับความสำคัญของงาน ไม่รวมประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รักษาการประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ (หากมีความจำเป็น ต้องกำหนดให้มีระบบ VPN ให้กับผู้ดูแลระบบ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ที่จำเป็นต้องทำงานกับระบบภายนอก สามารถเข้าใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ของบริษัท) | |||||
กรณีอุทกภัย: สินค้า อะไหล่ อุปกรณ์ ต้องนำเก็บขึ้นที่สูง และ/หรือย้ายไปยังคลังอื่นหากเกิดความรุนแรงด้านอัคคีภัยและแผ่นดินไหว | - | - | - | |||
ในกรณีที่ยานพาหนะ อุปกรณ์ขนถ่ายสินค้า ได้รับความเสียหายบางส่วนบางคัน ให้พนักงานขับรถ ใช้งานในคันที่เหลือ ที่ใช้งานได้ |
- |
ในกรณีที่ยานพาหนะ อุปกรณ์ขนถ่ายสินค้า ได้รับความเสียหายบางส่วนบางคัน ให้พนักงานขับรถ ใช้งานในคันที่เหลือ ที่ใช้งานได้ |
- | |||
เทคโนโลยีสารสนเทศและข้อมูลที่สำคัญ |
ในกรณีเกิดปัญหาเกี่ยวกับเครื่องแม่ข่าย (Server) และอุปกรณ์เครือข่าย (Network) แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศองค์กร จะดำเนินการแก้ไขเบื้องต้น และ/หรือประสานงานกับบริษัทที่ดูแลรับผิดชอบแอพพลิเคชั่น (WINSpeed) และ/หรือผู้เชี่ยวชาญระบบเครือข่ายโดยเร็วที่สุดภายในระยะเวลาไม่เกิน 24 ชม. ในกรณีข้อมูลที่บันทึกอยู่ในรูปแบบสื่อดิจิทัลที่บริษัท เกิดความเสียหายทั้งหมด จะมีการสำรองข้อมูลใน Backup Server และสื่ออื่น ซึ่งสามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาทำงานต่อได้ ให้เป็นไปตามนโยบายด้านความปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศองค์กรต้องประสานงานเพื่อกำหนดให้มีระบบรองรับการทำงานในสภาวะวิกฤต ดังนี้
|
|||||
บุคลากรหลัก |
กำหนดให้ใช้บุคลากรสำรองทดแทน ตามข้อ 2.1 โครงสร้างและทีมงานแผนการจัดการด้านความต่อเนื่องทางธุรกิจ หรือพนักงานในแผนก/ฝ่ายเดียวกัน |
|||||
กำหนดให้พนักงานในแผนก/ฝ่ายอื่นที่อยู่ในอาคารหรือคลังเดียวกัน ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในกรณีที่พนักงานไม่เพียงพอหรือขาดแคลน |
||||||
คู่ค้า/ผู้ให้บริการที่สำคัญ/ผู้มีส่วนได้เสีย |
ในกรณีที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของบริษัท ไม่สามารถให้บริการได้ตามปกติมากกว่า 1 ชั่วโมงขึ้นไป ให้พนักงานที่มีโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภท Smartphone สามารถทำโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้เป็น Hotspot เพื่อแชร์อินเทอร์เน็ตให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถรับสัญญาณ Wi-Fi ได้เป็นการชั่วคราว |
|||||
ในกรณีที่ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมหลักของบริษัท ไม่สามารถให้บริการได้มากกว่า 1 วัน ผู้ประสานงานการจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ ประสานกับแผนกจัดซื้อให้ดำเนินการซื้ออุปกรณ์เชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตแบบพกพา (Air Card) ที่ร้านสะดวกซื้อ จำนวน 5 ตัวหรือมากกว่า ได้ทันที เพื่อแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าไปก่อน |
||||||
ในกรณีที่ไม่สามารถเข้ามาปฏิบัติงานในสถานที่ทำงานหลักได้ และจำเป็นต้องติดต่อประสานงานกับบริษัท ให้พนักงานสามารถติดต่อผ่านทาง Application: Line (เชื่อมโยงกับ Line Group: @BCM_EFORL) โดยจัดกลุ่ม มีสมาชิกเป็นพนักงานของบริษัท ใช้ติดต่อเฉพาะในกรณีเกิดเหตุสภาวะวิกฤตเท่านั้น |
4.2 การวิเคราะห์ความเสี่ยงแต่ละพื้นที่ ระดับความเสี่ยง และแนวทางการแก้ปัญหา
พื้นที่ | ระดับความเสี่ยง (L M H) | ปัญหาเฉพาะพื้นที่ | แนวทางการแก้ปัญหา |
---|---|---|---|
สำนักงานใหญ่ | - | - | |
คลัง Med | - | - | |
คลังไม้ | - | - | |
งามวงศ์วาน | ระบบสาธารณูปโภค | ||
M | 1) สัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่เสถียร | แก้ไข ปรับปรุงซ่อมแซม | |
M | 2) ระบบปรับอากาศ | แก้ไข ปรับปรุงซ่อมแซม | |
M | 3) ที่จอดรถไม่เพียงพอ | เช่าที่จอดรถเพิ่ม | |
H | 4) มีบุคคลภายนอกเข้า-ออกพลุกพล่าน | ติดกล้องวงจรปิด ประตูที่มีระบบเปิด-ปิด แข็งแรงปลอดภัย Action Manager ต้องมีโทรศัพท์สายตรงสายด่วนกับหน่วยงานหรือตำรวจที่ดูแลด้านความปลอดภัย | |
ทุกพื้นที่ | ปัญหาร่วม | แนวทางการแก้ปัญหา | |
H | 1) ความปลอดภัยด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ อินเทอร์เน็ต | เร่งให้มีการติดตั้งระบบ Firewall อย่างสมบูรณ์ภายใน Q2/2565 | |
L | 2) ความเสี่ยงด้านน้ำท่วม | ซื้อกระสอบทรายปิดกั้น โยกย้ายทรัพย์สิน สินค้าขึ้นที่สูง |
4.3 การวิเคราะห์เพื่อกำหนดความต้องการทรัพยากรที่สำคัญ
4.3.1 ด้านสถานที่ปฏิบัติงานสำรอง (Working Space Requirement) ดังแสดงในตารางดังนี้
ประเภททรัพยากร | ที่มา | ระยะเวลาการจัดหา* | ||||
---|---|---|---|---|---|---|
4 ชั่วโมง | 1 วัน | 1 สัปดาห์ | 2 สัปดาห์ | 1 เดือน | ||
พื้นที่สำหรับสถานที่ปฏิบัติงานสำรอง |
|
60 ตร.ม. |
80 ตร.ม. |
100 ตร.ม. |
150 ตร.ม. |
200 ตร.ม. |
คลังสินค้า |
|
500 ตร.ม. | 1,000 ตร.ม. | 2,500 ตร.ม. | ||
Cold Room |
|
30 ลบม. | 60 ลบม. | 100 ลบ.ม. | ||
พื้นที่สำรองปฏิบัติงานที่บ้าน (WFH) |
|
*ระยะเวลาที่มากขึ้นก็สามารถจัดหาทรัพยากรได้มากขึ้นเพียงพอขึ้น
4.3.2 ความต้องการด้านวัสดุอุปกรณ์ (Equipment & Supplies Requirement) ดังแสดงในตารางดังนี้
ประเภททรัพยากร | ที่มา | ระยะเวลาการจัดหา | ||||
---|---|---|---|---|---|---|
4 ชั่วโมง | 1 วัน | 1 สัปดาห์ | 2 สัปดาห์ | 1 เดือน | ||
คอมพิวเตอร์สำรองที่ |
|
5 เครื่อง | 5 เครื่อง | 10 เครื่อง | 20 เครื่อง | 20 เครื่อง |
โทรศัพท์พร้อม |
|
1 เครื่อง | 1 เครื่อง | 1 เครื่อง | 2 เครื่อง | 2 เครื่อง |
เครื่องโทรสารพร้อมหมายเลข |
|
- | 1 เครื่อง | 1 เครื่อง | 1 เครื่อง | 1 เครื่อง |
เครื่องถ่ายเอกสาร/เครื่องสแกน |
|
- | 1 เครื่อง | 1 เครื่อง | 1 เครื่อง | 1 เครื่อง |
เครื่องสำรองไฟฟ้า |
|
- | 1 เครื่อง | 1 เครื่อง | 1 เครื่อง | 1 เครื่อง |
4.3.3 ความต้องการด้านเทคโนโลยี
ประเภททรัพยากร | ที่มา | ระยะเวลาการจัดหา | ||||
---|---|---|---|---|---|---|
4 ชั่วโมง | 1 วัน | 3 วัน | 1 สัปดาห์ | 2 สัปดาห์ | ||
E-mail และเว็บไซต์ www.eforl-aim.com |
|
|||||
ระบบ WINSpeed |
|
4.3.3.1 ความต้องการด้านพนักงานสำหรับความต่อเนื่องเพื่อปฏิบัติงาน (Personnel Requirement) ปรากฏตามตาราง
1) การระบุจำนวนพนักงานหลักที่จำเป็นเหตุการณ์อัคคีภัย / เหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย
ประเภททรัพยากร | ระยะเวลาการจัดหา | ||||
---|---|---|---|---|---|
4 ชั่วโมง | 1 วัน | 3 วัน | 1 สัปดาห์ | 2 สัปดาห์ | |
หัวหน้าทีมจัดการความต่อเนื่องเหตุการณ์อัคคีภัย / เหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย |
1 คน | 1 คน | 1 คน | 1 คน | 1 คน |
บุคลากรหลักจัดการความต่อเนื่องเหตุการณ์อัคคีภัย / เหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย |
3-4 คน | 4-5 คน | 6-7 คน | 6-7 คน | 8-9 คน |
บุคลากรสำรองในการปฏิบัติงานจัดการความต่อเนื่องเหตุการณ์อัคคีภัย/เหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย | 4-5 คน | 6-7 คน | 6-7 คน | 8-9 คน | 9-10 คน |
รวม | 8-10 คน | 11-13 คน | 13-15 คน | 15-17 คน | 18-20 คน |
*หากเหตุการณ์ยังอยู่ในสภาวะวิกฤตให้เตรียมพนักงานให้มากขึ้นตวามช่วงเวลา
2) การระบุจำนวนบุคลากรหลักที่จำเป็นต่อเหตุการณ์ถูกจู่โจมทางคอมพิวเตอร์
ประเภททรัพยากร | ระยะเวลาการจัดหา | ||||
---|---|---|---|---|---|
4 ชั่วโมง | 1 วัน | 3 วัน | 1 สัปดาห์ | 2 สัปดาห์ | |
หัวหน้าทีมบริหารความต่อเนื่องต่อการถูกจู่โจมทางคอมพิวเตอร์ | 1 คน | 1 คน | 1 คน | 1 คน | 1 คน |
บุคลากรสำรองในการปฏิบัติงานจัดการความต่อเนื่องการถูกจู่โจมทางคอมพิวเตอร์ | 1 คน | 2 คน | 2 คน | 2 คน | 3 คน |
รวม | 2 คน | 3 คน | 3 คน | 3 คน | 4 คน |
4.3.4 ความต้องการด้านผู้ให้บริการที่สำคัญ (Service Requirement)
ประเภททรัพยากร | ระยะเวลาการจัดหา | ||||
---|---|---|---|---|---|
4 ชั่วโมง | 1 วัน | 3 วัน | 1 สัปดาห์ | 2 สัปดาห์ | |
ผู้ให้บริการเชื่อมโยงระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต | หน่วยงานละ 1 คน | หน่วยงานละ 1 คน | หน่วยงานละ 1 คน | หน่วยงานละ 1 คน | หน่วยงานละ 1 คน |
รวม | 1 คน | 1 คน | 1 คน | 1 คน | 1 คน |
5. ขั้นตอนการจัดการด้านความต่อเนื่องทางธุรกิจและการกู้คืนกระบวนการ
6. การฝึกอบรม ฝึกฝน และการธำรงรักษา
บริษัทได้นำแนวคิดและแนวปฏิบัติด้านแผนการจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจนี้ ไว้ในการปฐมนิเทศพนักงานใหม่ และสื่อสารให้กับบุคลากรทุกระดับในสื่อต่าง ๆ ของบริษัท และหากมีการประชุมสัมมนาทั่วไป หรือการประชุมประจำปี ก็จะมีวาระนำแนวคิดแนวปฏิบัตินี้บรรยายและอบรม ให้รับทราบตามความเหมาะสม
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนซ้อมหรือแผนการฝึกฝน เพื่อให้เกิดความเข้าใจ และสามารถปฏิบัติได้ถูกต้อง เมื่อมีสถานการณ์จริงเกิดขึ้น ซึ่งจะยังประโยชน์ด้านการลดความเสี่ยง ลดความเสียหาย และลดความตื่นตระหนกของพนักงานบริษัทเมื่อประสบกับสถานการณ์จริงได้ ซึ่งในปี 2565 นี้ บริษัทกำหนดให้มีการฝึกซ้อมการดับเพลิงขั้นต้น และการฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ ไว้ในวันอังคาร-พุธที่ 13-14 กันยายน 2565 และจะเป็นเดือนสิงหาคมของทุก ๆ ปี
โดยให้ ทีมงานจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจที่เกี่ยวข้อง สังเกตการณ์ ควบคุมการให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติ บันทึก ความสำเร็จ จุดหรือประเด็นที่ต้องปรับปรุง ฯ
หมายเหตุ: กำหนดการ ช่วงเวลาข้างต้น อาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม
ภายใน 3 วันทำการ ให้ผู้ประสานงานและหัวหน้าทีมงานจัดการความเนื่อง ทำรายงานสรุปมายัง หัวหน้าคณะจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ
ซึ่งทีมงานตามข้อ 2.1 จะนำมาเป็นข้อมูลสำคัญในการปรับปรุง และธำรงรักษาระบบการจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจต่อไป.
แผนการจัดการด้านความต่อเนื่องทางธุรกิจนี้ ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2565 เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2565 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันเดียวกัน และได้ปรับปรุงแก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565.